วันอังคารที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2555

หลักการทำงานของ คอมพิวเตอร์

หลักการทำงานของ คอมพิวเตอร์
ระบบการทํางานของคอมพิวเตอร์ การทํางานของคอมพิวเตอร์ แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ดังนี้
1. หน่วยรับข้อมูล (Input Unit)
           ทําหน้าที่ในการรับข้อมูลหรือคําสั่งจากภายนอกเข้าไปเก็บไว้ในหน่วยความจํา เพื่อเตรียมประมวลผล
ข้อมูลที่ต้องการ  ซึ่งอุปกรณ์ที่ใช้ในการนําข้อมูลที่ใช้กันอยู่ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนั้น  มีอยู่หลายประเภทด้วย
กันสําหรับอุปกรณ์ที่นิยมใช้ในปัจจุบันมี ดังต่อไปนี้
           - Keyboard
           - Mouse
           - Disk Drive
           - Hard Drive
           - CD-Rom
           - Magnetic Tape
           - Card Reader
           - Scanner

2. หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit)

           ทําหน้าที่ในการคํานวณและประมวลผล แบ่งออกเป็น 2 หน่วยย่อย คือ
           - หน่วยควบคุม  ทําหน้าที่ในการดูแล ควบคุมลําดับขั้นตอนของการประมวลผล และการทํางาน
ของอุปกรณ์ต่างๆ ภายในหน่วยประมวลผลกลาง  และช่วยประสานงานระหว่างหน่วยประมวลผลกลาง กับ
อุปกรณ์นําเข้าข้อมูล อุปกรณ์ในการแสดงผล และหน่วยความจําสํารอง
           - หน่วยคํานวณและตรรก ทําหน้าที่ในการคํานวณและเปรียบเทียบข้อมูลต่างๆ ที่ส่งมาจาก
หน่วยควบคุม และหน่วยความจํา
3. หน่วยความจํ า (Memory)
           ทําหน้าที่ในการเก็บข้อมูลหรือคําสั่งต่างๆ ที่รับจากภายนอกเข้ามาเก็บไว้ เพื่อประมวลผลและยัง
เก็บผลที่ได้จากการประมวลผลไว้เพื่อแสดงผลอีกด้วย ซึ่งแบ่งออกเป็น
           หน่วยความจํา เป็นหน่วยความจําที่มีอยู่ ในตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ ทําหน้าที่ในการเก็บคําสั่ง
หรือข้อมูล แบ่งออกเป็น
           - ROM หน่วยความจําแบบถาวร
           - RAM หน่วยความจําแบบชั่วคราว
           - หน่วยความจําสํารอง    เป็นหน่วยความจําที่อยู่นอกเครื่อง มีหน้าที่ช่วยให้หน่วยความจําหลัก
สามารถเก็บ ข้อมูลได้มากขึ้น
4. หน่วยแสดงผล (Output Unit)
           ทําหน้าที่ในการแสดงผลลัทธ์ที่ได้หลังจากการคํานวณและประมวลผล สําหรับอุปกรณ์ที่ ทําหน้าที่
ในการแสดงผลข้อมูลที่ได้นั้นมีต่อไปนี้
           - Monitor จอภาพ
           - Printer เครื่องพิมพ.
           - Plotter เครื่องพิมพ์ที่ใช้ปากกาในการเขียนข้อมูลต่างๆ ที่ต้องการลงกระดาษ

วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2554

สามก๊ก ตอน กวนอูไปรับราชการโจโฉ (ย่อ)

โจโฉยังแค้นเล่าปี่และม้าเท้งอยู่ เมื่อครั้งที่เคยลงชื่อกำจัดตนร่วมกับขุนนางคนอื่น แต่ด้วยเมืองเสเหลียงมีกำลังทหารแข็งแกร่งยากแก่การปราบปราบโดยง่าย ดังนั้นโจโฉจึงยกทัพไปตีเมืองชีจิ๋วของเล่าปี่แทนเล่าปี่กับเตียวหุยอยู่เมืองเสียวพ่าย เมื่อทราบข่าวโจโฉยกมาบุก นำกำลังออกไปรบแต่ปรากฏว่าแตกทัพ เล่าปี่หนีไปหาอ้วนเสี้ยว ฝ่ายเตียวหุยนำทหารที่เหลือตีฝ่าออกมาเมื่อครั้งรวมกำลัง 17 หัวเมืองต่อสู้ตั๋งโต๊ะ กวนอูได้แสดงฝีมือเอาชนะนายทัพคนหนึ่ง(ฮัว- หยง) โจโฉรู้สึกพอใจกวนอูเป็นอันมาก ครานี้มีโอกาส สั่งเตียวเลี้ยวไปเกลี่ยกล่อมกวนอู(ใช้อุบายล่อกวนอูออกมาและยึดเมืองแห้ฝือ) กวนอูตรึกตรองผลดี-เสีย ที่เตี้ยวเลี้ยวชี้แจง เห็นว่ามีเหตุผล แต่ขอคำสัญญาไว้สามประการ๑.ขอเป็นข้าพระเจ้าเหี้ยนเต้๒.ขออยู่ดูแลพี่สะใภ้๓.เมื่อรู้ว่าเล่าปี่อยู่ที่ใดจะไปหาทันทีฝ่ายโจโฉลังเลแต่สุดท้ายยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดโจโฉทำนุบำรุงดูแลกวนอูไม่ได้ขาด ให้ทั้งเงินทอง เสื้อผ้า ม้า(เซ๊กเธาว์) ฯลฯ แต่กวนอูคงแสดงความซื่อสัตย์ที่ตนมีต่อเล่าปี่เสมอที่ปรึกษาคนหนึ่งชื่อซุนฮกออกอุบาย ด้วยกวนอูเป็นผู้รู้คุณคน ต้องตอบแทนน้ำใจก่อนจากไปเป็นแน่ เช่นนั้นหากมีกิจอันใดจงอย่าให้กวนอูอาสาครั้งหนึ่งอ้วนเสี้ยวยกทัพไปตีโจโฉที่ฮูโต๋ เล่าปี่มาด้วย กวนอูขออาสาออกรบ โจโฉไม่ยินยอม แต่เมื่อแม่ทัพฝ่ายตนพ่ายแพ้ กวนอูจึงออกไป ฆ่างันเหลียง และบุนทิวตายอ้วนเสี้ยวรู้ว่ากวนอูเป็นพี่น้องร่วมสาบานกับเล่าปี่ก็โกรธ แต่เล่าปี่อธิบายเหตุผลจนอ้วนเสี้ยวเปลี่ยนใจต่อมาเกิดโจรร้ายที่เมืองยีหลำ กวนอูอาสาไปปราบ และได้พบกับซุนเขียนคนสนิทของเล่าปี่ ซุนเขียนเล่าว่าเมื่อเล่าปี่แตกทัพ ได้ไปอยู่อาศัยกับอ้วนเสี้ยวที่กิจิ๋วเมื่อเสร็จกิจกลับไปหาโจโฉเพื่อบอกลา แต่โจโฉแสร้างเป็นป่วย กวนอูเขียนจดหมายอำลา ก่อนพาพี่สะใภ้ทั้งสองเดินทางไปหาเล่าปี่ นายด่านหลายคนไม่ทราบ ขัดขวางกวนอู กวนอูจำต้องสังหารทหารและนายทัพไปจำนวนหนึ่งฝ่ายเตียวหุยอยู่เมืองเก๋าเซีย กวนอูทราบข่าวก็ยินดีเป็นอันมาก ในตอนแรกเตียวหุยเข้าใจผิดคิดว่ากวนอูเข้าด้วยกับโจโฉ แต่เมื่อรู้ความจริงจึงยกทหารไปต้อนรับเล่าปี่คราดกับกวนอูไป-มาหอยู่หลายครั้ง เมื่อรู้ว่าอยู่เมืองเก๋าเซีย ออกอุบายบอกแก่อ้วนเสี้ยวจะไปเกลี้ยกล่อมเล่าเปียวเจ้าเมืองเกงจิ๋วมาเป็นพวก แต่แท้จริงกลับเดินทางไปกวนอูแต่เมืองเก๋าเซียเป็นเมืองจัตวา ไม่เหมาะเป็นที่ตั้งมัน ทั้งหมดจึงพากันไปอยู่เมืองยีหลำ



ที่มา:http://jeepy--jeep.blogspot.com/2007/10/blog-post_06.html

วันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

กระเป๋ารูปแปลกๆ















































ที่มา:http://www.fwdder.com/topic/27946








เลือกสีกระเป๋าสตางค์ตามวันเกิด


รู้หรือเปล่า? แค่เลือกสีกระเป๋าสตางค์ให้ถูกกับวันเกิด ก็สามารถทำให้คุณรวยได้นะ

คนเกิดวันอาทิตย์ คุณไม่ควรใช้กระเป๋าสตางค์สีฟ้า สีดำ หรือกระเป๋าที่ทำมาจากหนังของสัตว์ทะเลค่ะ ส่วนสีที่คุณควรใช้คือ สีในโทนส่วาง หรือจะเป็นสีน้ำตาลหรือสีเขียว อันนี้ก็โอเคค่ะ
คนเกิดวันจันทร์ กระเป๋าสตางค์สีแดงหรือกระเป๋าสตางค์ที่ทำมาหนังสัตว์ 2 แบบนี้คุณควรหลีกเลี่ยงไปเลยค่ะ ส่วนสีที่เหมาะกับคุณมากที่สุดก็คือ สีน้ำตาลหรือสีม่วง
คนเกิดวันอังคาร สีน้ำตาลและสีครีม 2 สีนี้เป็นสีที่ไม่เหมาะกับคนเกิดวันอังคารเลยค่ะ และอีกอย่างที่ต้องห้ามก็คือ กระเป๋าที่ทำมาจากหนังสัตว์ ส่วนสีที่ถูกโฉลกกับคุณก็คือ สีชมพู สีแสด และสีส้ม 3 สีนี้ก็คงจะถูกใจสาวๆ นะคะ
คนเกิดวันพุธ สำหรับคนเกิดวันพุธก็มีสีต้องห้ามอยู่ 2 สีคือ ดำและชมพู และไม่ควรใช้กระเป๋าสตางค์ที่ทำมาจากหนัง โดยเฉพาะสัตว์ปีก ส่วนสีของกระเป๋าสตางค์ที่เหมาะกับคุณก็คือ สีเขียวครีมและน้ำตาลค่ะ
คนเกิดวันพฤหัสบดี สำหรับคนเกิดวันพฤหัสบดีมีสีต้องห้ามอยู่สีเดียวคือ สีดำ และขนาดของกระเป๋าจะต้องไม่ใหญ่เกินไป เลือกชนิดมีช่องใส่พอประมาณค่ะ ส่วนสีที่เหมาะก็คือสีแดงหรือส้ม
คนเกิดวันศุกร์ สีของกระเป๋าสตางค์ที่ต้องห้ามสำหรับคนเกิดวันศุกร์ก็คือ สีดำ หรือสีทึมไม่สดใส แล้วก็ไม่ควรใช้กระเป๋าสตางค์ที่ดูแปลกจนเกินไป เพราะจะทำให้คุณเก็บเงินไม่อยู่นะคะ ส่วนสีที่ควรใช้ก็คือ สีฟ้าและสีชมพู
คนเกิดวันเสาร์ คุณไม่ควรใช้กระเป๋าสตางค์สีเขียวหรือน้ำตาล และต้องพยามยามเลือกแบบที่ไม่เก่าเร็ว ต้องแลดูใหม่อยู่เสมอ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ คนเกิดวันเสาร์ต้องซื้อกระเป๋าสตางค์บ่อยกว่าคนกิดวันอื่น เราะถ้าคุณปล่อยกระเป๋าสตางค์ของคุณเก่าขึ้นมาเมื่อไหร่ล่ะก็ เมื่อนั้นจะทำให้ไม่มีโชคลาภค่ะ ส่วนสีที่เหมาะกับคุณก็คือสีฟ้าหรือสีม่วงค่ะ

กระเป๋า การเลือกซื้อ เลือกกระเป๋าทำงานให้เก๋ เสริมบุคลิกและดีต่อสุขภาพ



สาวผอม สูงเก้งก้าง
คนส่วนใหญ่มักเชื่อว่าคนผอมสูงจะแต่งตัวแบบไหนหรือใช้กระเป๋าแบบใดก็ดูจะเหมาะเจาะ แต่ช้าก่อน ลองนึกภาพสาวผอมแถมสูงเก้งก้างกับกระเป๋ารูปทรงยาวเรียวคล้ายไม้ซีกถือไม้จิ้มฟันบ้างหรือเปล่า ถ้าคุณรูปร่างเข้าข่ายนี้ เราขอแนะนำกระเป๋าขนาดใหญ่ปานกลางทรงกว้างประเภท Tote หรือ Hobo ยิ่งถ้าเป็นกระเป๋าที่ทำจากหนังนิ่มๆ ไม่เน้นรูปทรงมากนัก จะยิ่งเสริมลุคให้ดูเป็นสาวมั่นมีสไตล์
เมื่อเลือกกระเป๋าทรงสวยได้แล้ว อย่าลืมใส่ใจกับน้ำหนักสัมภาระด้วย ที่ทำงานวิจัยเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง แนะนำว่า
สาวๆออฟฟิศที่ต้องสะพายกระเป๋าเป็นประจำทุกวัน The American Chiropractic Associationควรจำกัดของในกระเป๋าให้มีน้ำหนักไม่เกิน 10 เปอร์เซนต์ของน้ำหนักตัว
เช่น หากคุณน้ำหนัก 50 กิโลกรัม น้ำหนักมวลรวมของกระเป๋าสะพายไม่ควรเกิน 5 กิโลกรัม ทั้งนี้เพื่อสุขภาพของกระดูกไขสันหลัง และกล้ามเนื้อบริเวณไหล่ ต้นคอ และหลัง
แต่ถ้าหากมีสัมภาระเยอะจริงๆ ควรมีกระเป๋าสำรองไว้ถ่ายของ เพื่อไม่ให้ไหล่ต้องรับบทหนักจนเกินไป

กระเป๋า การเลือกซื้อ เลือกกระเป๋าทำงานให้เก๋ เสริมบุคลิกและดีต่อสุขภาพ


สาวเอวหนา สะโพกใหญ่ หรือมีหน้าท้อง
ทรวดทรงตรงข้ามกับสาวอกใหญ่ ไหล่กว้างโดยสิ้นเชิง ฉะนั้นกระเป๋าที่เหมาะกับรูปร่างนี้ก็ควรเป็นกระเป๋าสายสั้นแบบเก๋มีดีไซน์ ที่จะช่วยดึงสายตาจากจุดบกพร่องของรูปร่างช่วงกลางลำตัว ขอแนะนำว่า ทรง Baguette หรือทรง Pouch แบบหนังนิ่ม ซึ่งจุของได้เยอะและลงทุนครั้งเดียวใช้ได้นานเลย

กระเป๋า การเลือกซื้อ เลือกกระเป๋าทำงานให้เก๋ เสริมบุคลิกและดีต่อสุขภาพ


สาวไซส์มินิ
กระเป๋าทรงยาวและแคบหรือกระเป๋าใบย่อมจะช่วยสร้างความสูงสง่าแบบเสกได้ในระดับที่น่าพอใจ แต่พึงระลึกไว้เสมอว่า อย่าเผลอเลือกสะพายกระเป๋าแบบโอเวอร์ไซส์หรือกระเป๋าทรงกว้างเป็นอันขาด ถ้าไม่อยากดูเตี้ยลงไปกว่าเดิม สำหรับสาวไซส์มินิที่มีข้าวของเยอะ ลองเลือกกระเป๋าทรง Tote ไซส์กลางก็จุของได้เพียบ และไม่ลดสเกลความสูงของคุณอีกด้วย
ที่มา:http://www.visavivamarts.com/store/article/view-th.html